EER และ SEER คือ ค่าวัดการใช้พลังงานของแอร์
หากเราต้องการแอร์ประหยัดไฟ ควรดูตรงไหน?
– ฉลากเบอร์ 5 จะเป็นแอร์ประสิทธิภาพดีช่วยประหยัดไฟได้ดี
– ค่า BTU การเลือก BTU ที่เหมาะสมกับขนาดห้องจะช่วยประหยัดอีกทาง
– ค่า EER และ SEER ช่วยในการตรวจสอบค่าประสิทธิภาพของแอร์แต่ละเครื่อง
ความแตกต่างของ EER และ SEER
EER เป็นค่าใช้วัดการใช้พลังงานของแอร์
SEER เป็นค่าใช้วัดการใช้พลังงานตามฤดูกาลของแอร์
แต่ว่า SEER จะนำการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ที่ส่งผลต่อการทำงานของแอร์มาวิเคราะห์ร่วมด้วย จึงทำให้มีความใกล้เคียงกับใช้พลังงานจริงมากขึ้น
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 บอกถึงการประหยัดไฟ ช่วยบอกระดับการใช้รวมทั้งข้อมูลขั้นต้นต่างๆ เช่น การใช้จ่ายต่อปี ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้อย่างตรงความต้องการ มีความคุ้มค่าเหมาะสม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือน ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มีตั้งแต่ระดับต้นคือเบอร์ 1 ไปยังเบอร์ 5 ส่วนเบอร์ 5 คือระดับสูงสุด
นอกจากนี้ฉลากประหยัดไฟบนแอร์ ช่วยบ่งชี้การทำงานของพลังงาน มันจะเป็นเครื่องบอกว่าการประหยัดพลังงานอยู่ในระดับไหน แอร์แต่ละขนาด ต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน รวมทั้งข้อกำหนดไฟฟ้าแห่งประเทศไทยเสียก่อน
ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 สำหรับแอร์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ แอร์ชนิด Fixed Speed หรือผ่านการทดสอบแบบ EER และแอร์ชนิด Inverter ผ่านการทดสอบแบบ SEER
แอร์ชนิด Fix Speed หรือ EER เป็นค่าที่สำหรับใช้วัดการใช้พลังงานของแอร์ โดยแอร์ชนิดนี้การทำงานของ Compressor จะไม่สามารถปรับระดับความเร็วในการหมุนได้ จึงทำให้ต้องมีการตัดต่อ การทำงานของ Compressor บ่อย ๆ เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิในห้อง มีจุดด้อยทำให้อุณหภูมิในห้องไม่คงที่ อีกทั้งตัวเครื่องยังทำงานเสียงดังอีกด้วย
แอร์แบบ Inverter หรือ SEER เป็นค่าที่ใช้วัดการใช้พลังงานตามฤดูกาลของแอร์ นอกจากนี้จะใช้ค่าการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอากาศมาเป็นปัจจัยในการวิเคราะห์ร่วมด้วย จึงทำให้มีความใกล้เคียงในการใช้พลังงานจริงมากกว่าแบบ EER ซึ่งจะมีระบบเซ็นเซอร์คอยตรวจจับอุณหภูมิ หากอุณหภูมิถึงในระดับที่กำหนดเอาไว้ Compressor ก็จะลดรอบลงเพื่อคงความเย็นเอาไว้ แต่ Compressor จะไม่หยุดทำงาน ซึ่งเป็นข้อดี คือ ทำให้ประหยัดไฟได้มากกว่า30 % ช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่มากกว่าเครื่องแอร์แบบเดิม เย็นเร็ว การทำงานมีเสียงเบา ข้อสำคัญคือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะสมกับอากาศในประเทศไทย
- เลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- เลือกแอร์มีค่า SEER สูง
- เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีขนาด BTU/ชั่วโมง ให้พอเพียงกับขนาดของห้อง