ไม่ว่าเมืองไทยจะอยู่ในช่วงฤดูไหนก็ตาม เรามักจะรู้สึกได้ถึงความร้อนอยู่ตลอดเวลา ขนาดนั่งอยู่ในบ้านก็รู้สึกเหมือนอยู่ในเตาอบ ซึ่งทำให้หลายคนร้อนจนแทบจะตับแตก แต่ถ้าบ้านใครมีแอร์นี่ก็เปรียบได้กับสวรรค์ดีๆ นี่เอง แต่ถ้าคุณไม่มีเครื่องปรับอากาศ และกำลังเผชิญหน้ากับความร้อนอยู่ มันคงถึงเวลาแล้วที่จะต้องหาวิธีมารับมือกับมัน และการซื้อเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ที่มีราคา 2 – 3 หมื่นบาท อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสุดของคุณ วันนี้เราจะมาดูตัวเลือกที่มีราคาถูกกว่านี้ คือแอร์เคลื่อนที่แบบประหยัด ซึ่งเราจะมาหาคำตอบกันว่ามันคุ้มค่าที่จะนำมาใช้งานจริงไหม
หลักการทำงานของแอร์เคลื่อนที่
แอร์เคลื่อนที่ก็เหมือนกับเครื่องปรับอากาศทั่วไป มีหลักการทำงานด้วยการระบายความร้อนออกจากห้อง ผ่านท่อระบายความร้อนที่ต่อออกทางหน้าต่าง ซึ่งจะลำเลียงไอร้อนที่ออกมาจากเครื่องไปตามท่อไปยังปลายสุด แอร์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับท่อระบายไอร้อน พร้อมกับชุดติดตั้งสำหรับขอบหน้าต่าง ช่วยให้ลูกค้าทั่วไปสามารถนำไปติดตั้งได้รวดแล้ว และสะดวกมากยิ่งขึ้น
หลายคนยังมีความเข้าใจผิดๆ ว่าแอร์เคลื่อนที่สามารถย้ายไปไหนได้สะดวกรวดเร็ว แต่มันไม่ได้สะดวกแบบที่หลายคนคิด เพราะคุณยังต้องนำชุดท่อระบายความร้อนไปด้วย แถมยังต้องมีหน้าต่างที่รองรับการติดตั้งด้วย ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เราพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มักจะพบว่าไม่ค่อยสะดวกที่จะย้ายพวกมันไปไหนมาไหน ถึงแม้ว่ามันจะย้ายได้ง่ายและตัวเล็กกว่าแอร์ติดผนังก็ตามที
ความคุ้มค่าในการใช้งาน
เป็นที่รู้กันดีกว่าอากาศดีเย็นสบายนั้นไม่ได้หากันง่ายๆ และการสร้างมันขึ้นมาก็ไม่ใช่ราคาถูกเลย เพราะมันต้องใช้เครื่องปรับอากาศที่กินพลังงานไฟฟ้ามหาศาล ราคาของค่าไฟขึ้นอยู่กับคอมแอร์ทำงานกี่รอบ แล้วในแต่ละรอบทำงานติดต่อกันนานแค่ไหน นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยร่วมด้วย ได้แก่
1.สภาพอากาศ
ยิ่งร้อนภายนอกมากเท่าไหร่ แอร์ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเอาลมร้อนออกจากบ้าน มันใช้พลังงานไม่มากที่จะลดอุณภูมิลงมาจาก 30 – 27 แต่ถ้าวันไหนร้อนจัดมากที่อุณภูมิแตะ 35 องศา จะเห็นได้ชัดเลยว่าแอร์ทำงานหนักมากแค่ไหน โดยเฉพาะคอมเพรสเซอร์ที่อาจทำงานตลอดเวลาเพื่อสู้กับอากาศร้อน ถ้าเป็นแบบนี้แน่นอนว่าค่าไฟต้องบานแน่นอน แต่มันไม่จำเป็นต้องปล่อยให้แอร์เคลื่อนที่ต้องทำงานหนักขนาดนั้น ขอเพียงให้มั่นใจว่าเปิดอยู่ในห้องที่ปิด พยายามปิดม่านบังแดด ทำแบบนี้จะช่วยลดภาระไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป
2.ขนาดของห้อง
ขนาดของห้องก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำความเย็น ลองคิดดูว่ามีแอร์อยู่เครื่องหนึ่งแต่ไม่สามารถให้ความเย็นเพียงพอกับขนาดใหญ่ได้ มันคงทำให้พวกเรานั่งเหงื่อแตกกันแน่นอน ดังนั้นขนานดห้องกับขนาดของแอร์จึงต้องมีความสัมพันธ์กัน ยกตัวอย่างเช่นห้องขนาด 200 ตารางฟุต ควรเลือกใช้แอร์ขนาด 8000 BTU หรือถ้าเป็นห้องนั่งเล่นขนาด 600 ตารางฟุต ควรมองหาแอร์ขนาด 14,000 BTU ขึ้นไป ถ้าเป็นห้องขนาดใหญ่มากกว่าที่กล่าวมา หรือเป็นห้องที่สัมผัสกับความร้อนโดยตรง เช่น ห้องครัว ยิ่งต้องเพิ่มกำลัง BTU ให้มากขึ้นไปอีก
3.ค่าไฟฟ้า
ค่าไฟขึ้นอยู่กับว่าเราเปิดใช้เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ รวมถึงเรทค่าไฟฟ้าต่อหน่วยตามภูมิภาค ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเดือนที่ร้อนจัด ในขณะที่ช่วงหน้าหนาวจะไม่ค่อยแพงนัก ยิ่งถ้าเปิดในช่วงตอนกลางคืนเป็นหลักจะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่าเปิดตอนกลางวัน ดังนั้นราคาจึงขึ้นอยู่กับ