ประเทศไทยเป็นประเทศมีอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี ยิ่งในเดือนเมษายนอากาศจะร้อนเป็นพิเศษ เพราฉะนั้นการติดแอร์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการคลายร้อน ทำให้คุณสามารถผ่านช่วงเวลาอันแสนทรมานไปได้ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าการเลือกตำแหน่งติดแอร์ภายในห้องนั้น ควรติดตรงไหนถึงจะดีและเหมาะสมที่สุด
ห้องรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ตำแหน่งดีที่สุดในการติดแอร์ของห้องรูปแบบนี้ คือ ต้องนำแอร์ไปไว้ทางด้านใดของแนวนอน อย่าติดไว้ตรงกลางห้องเพราะลมไปไม่ทั่วถึงทั้งห้อง ถ้าประตูห้องอยู่แนวนอน ควรติดแอร์ให้อยู่ตรงข้ามกับประตู จะดีที่สุด
ส่วนตำแหน่งที่ห้ามติดแอร์เด็ดขาด คือ บริเวณเหนือประตู เนื่องจาก ความเย็นสามารถไหลออกไปนอกห้องได้โดยง่าย ทำให้ภายในห้องไม่เย็นสักที นอกจากนี้การเปิด – ปิด ประตูเข้า – ออกบ่อยๆ ทำให้อุณหภูมิไม่เสถียร ส่งผลต่อระบบเซ็นเซอร์ของแอร์ มันทำงานหนักต่อยอดทำให้แอร์ทำงานหนักไปด้วย นอกจากห้องไม่เย็นแล้ว ยังเป็นการสิ้นเปลืองไฟอย่างมาก
ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีความยาวมาก
คุณสามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างง่ายๆ โดยการใช้ฉากกั้นห้อง , ม่านกั้นแอร์ มันจะช่วยเก็บความเย็นในบริเวณพื้นที่ใช้งานเฉพาะจุด นอกจากนี้ยังช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของแอร์ได้ในระดับหนึ่ง หรือถ้าวิธีนี้ยังไม่โดนใจ ก็มาดูอีกวิธีการหนึ่งกันเลยดีกว่า คือ ให้ติดแอร์ BTU ขนาดต่ำ โดยใช้แอร์ 2 เครื่อง ติดใน 2 ตำแหน่งอันแตกต่างกัน ช่วยกระจายความเย็นให้ทั่วถึงทั้งห้องได้อย่างแน่นอน
ข้อควรระวัง ไม่อยากให้ติดแอร์มี BTU สูงๆ เนื่องจากอาจใช้งานได้ไม่คุ้มเท่าที่ควร ยิ่งจำนวนคนในห้องมีน้อยจะยิ่งไม่โอเค เพราะเปลืองไฟมากกว่าให้ความคุ้มค่าในการใช้งาน
ห้องที่มีเพดานสูงเกินกว่า 2.5 เมตร ขึ้นไป
ห้องแบบนี้ไม่แนะนำติดแอร์ผนัง อยากให้ติดแอร์แบบแขวนมากกว่า เนื่องจากสามารถทำให้ลมกระจายตัวไปทั่วห้องได้มากกว่า อย่าลืมว่าแอร์แบบติดผนังจะเป่าลมเย็นลงข้างล่าง แต่ไม่ถึงด้านบนนั่นเอง
ห้องนอน
ห้ามติดตั้งแอร์ไว้บริเวณหัวเตียงโดยเด็ดขาด เพราะลมเย็นจะเข้าพุ่งชนที่ลำตัวหรือศีรษะโดยตรง ทำให้รู้สึกเย็นเกินไป ไม่สบายตัว อาจทำให้เกิดความไม่สบายอย่างเรื้อรังได้ แต่ควรติดตั้งแอร์ให้ตั้งฉากกับหัวเตียง จะทำให้เย็นสบาย เหมาะแก่การนอนหลับพักผ่อนมากกว่า
หากรู้ถึงตำแหน่งในการติดแอร์ในข้อดี และด้อยกันไปแล้ว ก็อย่าลืมในไปปรับใช้กับที่บ้านด้วยนะคะ จะได้มีความสุขกับการนอนแอร์เย็นฉ่ำ และประหยัดไฟไปพร้อมๆกัน
