น้ำยาแอร์ คือ สารทำความเย็นอีกรูปแบบซึ่งใช้เรียกสารที่ใช้กับเครื่องปรับอุณหภูมิอากาศโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะทั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน , อาคาร , เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ ก็ตาม
สารทำความเย็น คือ สารที่ใช้ในการดูดความร้อนรวมทั้งใช้ลดอุณหภูมิของวัตถุ , อากาศ , สารอื่นๆ มีทั้งชนิดที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศ , ห้องแช่แข็ง, ตู้แช่แข็ง , เครื่องทำน้ำเย็น , ตู้เย็น เป็นต้น
คุณสมบัติของน้ำยาแอร์ที่มีคุณภาพ
– ต้องสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับต่ำ อีกทั้งต้องไม่ทำลาย Ozone หรือทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก
– ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งของมนุษย์ และสัตว์ ข้อสำคัญเลยคือต้องไม่เป็นสารก่อมะเร็งเด็ดขาด
– มีความเป็นพิษในระดับต่ำ
– ต้องไม่ติดไฟ ไม่ทำให้เกิดการลามไฟ หรือก่อให้เกิดการระเบิดในทุกสถานการณ์
– ไม่สามารถก่อปฏิกิริยากับสารเคมีอื่นได้อย่างง่ายๆ
– ไม่ทำปฏิกิริยาอันเกี่ยวข้องกับอาหาร หรือน้ำดื่ม คือเวลาเปิดแอร์และทานอาหารไปด้วยต้องไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพอาหารรวมทั้งก่อสารพิษร้ายแรงขึ้นมานั่นเอง
– ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาอันตรายต่างๆ รวมทั้งต้องไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะรวมทั้งๆ วัสดุชนิดอื่นๆ ในระบบทำความเย็น
– มีความเสถียรสูง สามารถทนต่อความร้อน ความดัน ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เสื่อมสภาพง่าย
– มีค่าความร้อนที่ทำให้กลายเป็นไอสูง ดูดซับความร้อนได้เป็นจำนวนมากในขณะที่ใช้สารทำความเย็นน้อยหรือมีการไหลเวียนของสารน้อย
– มีความหนาแน่นสูง ช่วยลดขนาดรวมทั้งน้ำหนักของอุปกรณ์
– ต้องมีจุดเยือกแข็งต่ำ จุดเดือดสูง
– ผสมผสานเข้ากับน้ำมันหล่อลื่นได้ดี ทำให้น้ำมันหล่อลื่นไหลกลับมาเมื่อรวมตัวเข้ากับสารทำความเย็นในขณะที่กลับสู่เครื่องอัดได้
– ประกอบด้วยค่าต้านทานไฟฟ้าสูง ประโยชน์คือขณะที่เครื่องปรับอากาศกำลังทำงานไม่เกิดการลัดวงจรของไฟฟ้า
ประวัติในการสร้างสารทำความเย็น
ในปี ค.ศ.1834 Jacob Perkins เป็นผู้สร้างเครื่องทำความเย็นชนิดอัดไอเป็นครั้งแรกของโลกใบนี้ มีการทำงานแบบใช้น้ำ และกรดกำมะถัน ช่วยดูดความร้อนทำให้เย็นลง ต่อมาในปี ค.ศ.1866 ได้มีการปรังปรุงสารทำความเย็นรูปแบบใหม่ที่มีส่วนผสม ของ tpetroltethert และ tnaphtha นำมารวมเข้ากับคาร์บอนไดออกไซด์ สารทำความเย็นในยุคแรก ส่วนใหญ่สามารถติดไฟได้ รวมทั้งสร้างความเป็นพิษต่อชีวิตของมนุษย์ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1926 Thomas Midgley สามารถสร้างสารทำความเย็นที่ไม่ติดไฟได้ และแน่นอนว่ามีความเป็นพิษน้อย ถ้าหากไม่ดมเข้าไป อีกทั้งยังไม่กัดกร่อนโลหะหรืออุปกรณ์อื่นๆ อีกด้วย ซึ่งมันมีชื่อว่า R-12 มีประกาศการค้นพบอันยิ่งใหญ่นี้ ในเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1930 ต่อมาเมื่อมนุษย์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ก็มีการพัฒนาสารทำความเย็นชนิดอื่นที่ดีขึ้นๆ เรื่อยตลอดมา